ความหลากหลายทางชีวภาพ

ความมุ่งมั่นของเรา
ภายใต้สถานการณ์ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความหลากหลายทางชีวภาพและความสมดุลของระบบนิเวศ เจมาร์ทได้ตระหนักถึงความสำคัญของผลกระทบเหล่านี้ และมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนในทุกขั้นตอนตลอดห่วงโซ่คุณค่า
ตั้งแต่กระบวนการขนส่ง การใช้ทรัพยากรน้ำ และพลังงาน การบริหารจัดการคลังสินค้า ไปจนถึงการจัดจำหน่าย โดยเล็งเห็นว่ากิจกรรมเหล่านี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพได้ หากไม่มีการจัดการและควบคุมที่เหมาะสม
ด้วยเหตุนี้ เจมาร์ทจึงได้กำหนดนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเป็นทางการ โดยได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหาร เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการดำเนินธุรกิจของบริษัท นโยบายนี้ได้วางแนวทางชัดเจนในการตรวจสอบและควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศจากกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ส่งเสริมความยั่งยืนระดับโลกผ่านการสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs)
ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมาย
นโยบายความหลากหลายทางชีวภาพของเจมาร์ทมีเป้าหมายสูงสุดในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการสร้างสมดุลในระบบนิเวศ และมีความรับผิดชอบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนี้
ป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียคุณค่าความหลากหลายทางชีวภาพสุทธิ (No Net Loss - NNL)
มุ่งมั่นในการปกป้องพื้นที่ป่าไม้ให้ไม่เกิดการสูญเสียสุทธิ (No Net Deforestation)
ลดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Loss / Loss of Biodiversity)
ด้วยการยึดหลักการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับชั้น (Mitigation Hierarchy) ดังนี้
ในการดำเนินงานปัจจุบัน เจมาร์ทแสดงถึงความมุ่งมั่นในการจัดการและรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ที่บริษัทดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎหมาย ข้อบังคับ และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดจากการดำเนินงานของบริษัท
อีกทั้งยังได้กำหนดนโยบายชัดเจนในการหลีกเลี่ยงการดำเนินโครงการหรือการพัฒนาธุรกิจในพื้นที่ที่มีความสำคัญด้านการอนุรักษ์ หรือมีความเปราะบางต่อความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น พื้นที่แหล่งมรดกโลกที่ได้รับการประกาศจาก UNESCO (UNESCO World Heritage Sites) พื้นที่ที่ได้รับการคุ้มครองโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ประเภท I-IV ซึ่งรวมถึงอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และพื้นที่อนุรักษ์ตามกฎหมายของท้องถิ่น โดยมุ่งเน้นการป้องกันไม่ให้เกิดการรุกล้ำและทำลายระบบนิเวศในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางชีวภาพ เพื่อให้มั่นใจว่ากิจกรรมและการดำเนินงานของเจมาร์ทจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
นอกจากนี้ เจมาร์ทยังให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่อาจได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของบริษัท โดยบริษัทได้จัดตั้งกลไกการรับฟังข้อร้องเรียนและการสื่อสารกับชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ ตามหลักสิทธิมนุษยชนที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อให้แน่ใจว่ามุมมองและข้อกังวลของชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงจะได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน
ทั้งนี้ เจมาร์ทยังมุ่งเน้นการป้องกันและบรรเทาผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะสามารถดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต
แนวทางการบริหารจัดการ
-
1บริษัทตระหนักถึงการคัดสรรและพัฒนาการสร้างสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงมีการวางแผนพัฒนาและ ปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ให้เกิดความสมดุลในระบบนิเวศ
-
2บริษัทมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพและปราศจากผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้สุทธิ ภายใต้ขอบเขตที่สามารถจัดการได้
-
3
มีการตรวจสอบและควบคุมความเสี่ยงทางระบบนิเวศที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินการของบริษัทผ่านการกำหนด แผนมาตรการแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นตามลำดับขั้นของการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Mitigation Hierarchy) ได้แก่
การหลีกเลี่ยง (Avoidance):เพื่อลดการรุกล้ำและลดผลกระทบต่อพื้นที่ทางธรรมชาติที่มีความสำคัญการลดผลกระทบ (Reduce):โดยใช้กระบวนการที่ช่วยลดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมการฟื้นฟู (Restore):เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกลับสู่สภาพเดิมการชดเชย (Offset):เพื่อทดแทนทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อื่นเมื่อจำเป็น -
4จุดยืนในการหลีกเลี่ยงการดำเนินธุรกิจหรือการพัฒนาโครงการที่ตั้งอยู่บนพื้นที่อนุรักษ์หรือพื้นที่ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น พื้นที่แหล่งมรดกโลกตามประกาศของ UNESCO World Heritage พื้นที่ที่ได้รับการคุ้มครองตามข้อกำหนดขององค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ IUCN ประเภท I-IV และพื้นที่คุ้มครองตามกฎหมายท้องถิ่นกำหนด