สิทธิมนุษยชน

ความมุ่งมั่นของเรา
สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิพื้นฐานที่ติดตัวมนุษย์ทุกคนตั้งแต่เกิด ซึ่งทุกคนสมควรได้รับการปกป้องและเคารพ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในด้านการดำรงชีวิต ความปลอดภัย เสรีภาพส่วนบุคคล และความเสมอภาค
อย่างไรก็ตาม การละเมิดสิทธิมนุษยชนยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในหลายภูมิภาคทั่วโลก ส่งผลกระทบทั้งต่อบุคคลที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และภาพลักษณ์ขององค์กรที่เกี่ยวข้อง จนอาจนำไปสู่การร้องเรียนและการประท้วงจากองค์กรหรือบุคคลที่ได้รับผลกระทบ
บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ตระหนักถึงความสำคัญของการเคารพสิทธิมนุษยชนในทุกมิติ โดยให้ความสำคัญต่อพนักงานในทุกระดับชั้น รวมไปถึงผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่า เช่น ลูกค้า คู่ค้า และชุมชนโดยรอบ บริษัทมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส มีจริยธรรม และปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ พร้อมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรมในทุกระดับ
ในขณะเดียวกัน บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนานโยบายสิทธิมนุษยชนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล พร้อมสร้างความตระหนักรู้แก่พนักงาน เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ บริษัทยังตระหนักว่าการพัฒนาสังคมและชุมชนเป็นรากฐานสำคัญของความยั่งยืน จึงดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ส่งเสริมความยั่งยืนระดับโลกผ่านการสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs)
ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
เป้าหมาย
- ต้องไม่มีเหตุการณ์ร้องเรียนและการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มีนัยสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท
ผลการดำเนินงาน
ในปี 2567 และที่ผ่านมา บริษัท
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ
ภายใต้แนวทางการดำเนินงานของ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้และความเข้าใจด้าน สิทธิมนุษยชน แก่พนักงานทุกระดับ เพื่อให้เกิดความตระหนักและตื่นตัวในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น การล่วงละเมิด การเลือกปฏิบัติ ความหลากหลาย และการยอมรับความแตกต่าง
บริษัทดำเนินการสื่อสารความรู้พื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนผ่าน ช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมล, จดหมายข่าว, เว็บไซต์บริษัท และแพลตฟอร์มภายในอื่น ๆ เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกและต่อเนื่อง บริษัทมุ่งหวังให้พนักงานได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย นำไปปรับใช้กับการทำงาน รวมถึงเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เคารพในศักดิ์ศรีและสิทธิของทุกคน
จากแนวทางดังกล่าว เจมาร์ท มุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติต่อกันอย่างเป็นธรรม และร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม การส่งเสริมความเข้าใจด้านสิทธิมนุษยชนนี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างค่านิยมภายในองค์กร แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยยึดมั่นในหลักการสิทธิมนุษยชนเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ



แนวทางการบริหารจัดการ
การประกาศนโยบายสิทธิมนุษยชน
บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้เป็นส่วนสำคัญในการวางนโยบายสิทธิมนุษยชนของกลุ่มบริษัทเจมาร์ท โดยเป็นไปตามกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน กฎหมายและระเบียบท้องถิ่นจนถึงสากล ซึ่งขอบเขตของนโยบายสิทธิมนุษยชนของเจมาร์ท ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด ที่รวมถึงพนักงานทุกคนในการดำเนินงานของบริษัทครอบคลุมบริษัทย่อย และบริษัทร่วม ตัวแทนทางธุรกิจ และ คู่ค้า ตั้งแต่คณะกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ เพื่อนำไปเป็นหลักเกณฑ์ในการปกิบัติงานร่วมกันอย่างเคร่งครัดภายใต้ความซื่อสัตย์ สุจริต ตามหลักธรรมาภิบาลและจริยธรรมอันดีอย่างแท้จริง
โดยยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ สอดคล้องกับหลักการเคารพสิทธิมนุษยชน และแนวทางการดำเนินงานตามหลักการว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (The United Nations Framework and Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGP)
ครอบคลุมประเด็นสำคัญต่างๆ ได้แก่ การปฏิบัติต่อพนักงานอย่างมีมนุษยธรรม ปราศจากการทารุณกรรม การใช้ความรุนแรง การล่วงละเมิดทางเพศ การขู่เข็ญทางร่างกาย จิตใจ หรือการข่มเหงด้วยวาจา ตลอดจนการรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัย และความปลอดภัยในการปฏิบัติงานจัดให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี รวมถึงนโยบายสิทธิมนุษยชนเพื่อห้ามมิให้บริษัท หรือพนักงานเข้าไปมีส่วนร่วมในการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือละเมิดผู้ร่วมงานในทางใดทางหนึ่งอย่างเด็ดขาด เช่น การใช้แรงงานข้ามชาติที่ผิดกฎหมาย การใช้แรงงานเด็ก เป็นต้น
ทั้งนี้ หากบุคคลหรือพนักงานคนใดพบว่ามีการกระทำที่ละมิดนโยบายดังกล่าว สามารถรายงานการกระทำผิดตามช่องทางที่กำหนดไว้ในนโยบายการแจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียน ของบริษัทได้ โดยบริษัทจะรักษาข้อมูลให้เป็นความลับและคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้เปิดเผยข้อมูลเป็นอย่างดี และหากตรวจสอบแล้วพบการกระทำที่ผิดจริงบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนด้วยความเป็นธรรมโปร่งใส และปราศจากอคติ รวมไปถึงบรรเทาความเสียหายที่เหมาะสมและเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย
การตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้ยกระดับความเข้มข้นต่อเนื่องจากการจัดทำนโยบายสิทธิมนุษยชน ที่มุ่งเน้นแนวทางการปฏิบัติที่ดีด้วยความเคารพต่อพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทเข้าสู่การตรวจสอบสิทธิมนุษยชนที่มุ่งเน้นแนวทางการตรวจสอบจาก UN Guiding Principles on Business and Human Rights (UNGP) เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินการให้มั่นใจว่าบริษัทปฏิบัติตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล ซึ่งสามารถป้องกัน และแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิทธิมนุษยชนของทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีขอบเขตกระบวนการจัดการสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขอบเขตกระบวนการจัดการสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
-
1กำหนดนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน
-
2ระบุประเด็นและทำการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมของบริษัท
-
3มาตรการป้องกันและการลดผลกระทบเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้น
-
4การตรวจสอบ การติดตามการดำเนินงาน และการทบทวนประเด็น
-
5การสื่อสารต่อผู้มีส่วนได้เสียและสาธารณะ
-
6การบรรเทาและการเยียวยา
ดังนั้น การจัดทำรายการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านฉบับนี้ จึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการระบุประเด็นที่ครอบคลุมขอบเขตการดำเนินงานของบริษัทที่อาจสร้างผลกระทบหรืออาจเกิดผลกระทบเชิงลบแก่ผู้มีส่วนได้เสียในอนาคต และระบุประเด็นไปถึงคู่ค้าสำคัญของบริษัท เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชนขององค์กรในการค้นพบประเด็นที่บริษัทยังคงต้องพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น หรือประเด็นใดบ้างที่มีความสุ่มเสี่ยงและยังดำเนินการได้ไม่ดีพอหรือไม่ครบถ้วน
ทั้งนี้ เมื่อบริษัททราบถึงประเด็นที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มใดก็ตาม บริษัทจะกำหนดแนวทางป้องกันเพื่อลดผลกระทบให้น้อยลงหรือป้องกันไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวซ้ำอีก พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการเยียวยาผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจไว้เป็นแนวทางในการดำเนินงานแก่ฝ่ายงานที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนที่ 1 : กำหนดนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน
บริษัท ตระหนักถึงความสำคัญของการเคารพสิทธิมนุษยชน และมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามหลักการและแนวทางที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า พนักงาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน จะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงได้จัดทำและประกาศใช้นโยบายด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นทางการ รวมถึงได้วางแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานที่ยึดถือสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ
โดยขอบเขตของนโยบายและแนวปฏิบัติดังกล่าวนั้นครอบคลุมไม่เพียงแค่การดำเนินงานภายในบริษัทฯ เท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงการปฏิบัติต่อคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และองค์กรอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ มีความคาดหวังว่า คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจเหล่านี้จะปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 2 : ระบุประเด็นและทำการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมของบริษัท
การระบุปัญหาหรือประเด็นที่อาจเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งครอบคลุมถึงประเด็นด้านแรงงาน การปฏิบัติต่อพนักงาน การปกป้องสิ่งแวดล้อม การปฏิสัมพันธ์กับชุมชนท้องถิ่น และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การผลิตจนถึงการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงผลกระทบที่มีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น พนักงาน ลูกค้า และชุมชน การประเมินผลกระทบดังกล่าวจะนำไปสู่การพัฒนาแผนป้องกันและแก้ไขผลกระทบเชิงลบตลอดห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงการประเมินผลกระทบที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสียในกลุ่มต่างๆ เช่น พนักงาน ลูกค้า/ผู้บริโภค ชุมชนท้องถิ่น และพันธมิตรทางธุรกิจ การประเมินผลกระทบในทุกมิติและทุกช่วงการดำเนินงานนี้จะนำไปสู่การพัฒนาแผนป้องกันและแก้ไขผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อันจะช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัทในระยะยาว
การประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน โดยครอบคลุมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence: HRDD) เพื่อระบุความเสี่ยงในประเด็นต่างๆ ที่น่าจะเป็นความเสี่ยงสำคัญด้านสิทธิมนุษยชนสำหรับการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าของ JMART
ความเป็นไปได้
- 1 = มีความเป็นไปได้ต่ำมาก
- 2 = มีความเป็นไปได้ต่ำ
- 3 = มีความเป็นไปได้ปานกลาง
- 4 = มีความเป็นไปได้สูง
- 5 = มีความเป็นไปได้สูงมาก
ความร้ายแรง
- 1 = มีความร้ายแรงต่ำมาก
- 2 = มีความร้ายแรงต่ำ
- 3 = มีความร้ายแรงปานกลาง
- 4 = มีความร้ายแรงสูง
- 5 = มีความร้ายแรงสูงมาก
1. การละเมิดความเป็นส่วนตัว | R 1 | การนำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต |
2. ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ | R 2.1 | การเก็บรักษาสินค้าในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม |
R 2.2 | กระบวนการจัดเก็บสินค้าและการขนส่งที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน | |
R 2.3 | การระบุข้อมูลสินค้า หรือวิธีการใช้งานที่ไม่ชัดเจน | |
R 2.4 | การผลิตสินค้าที่ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานของลูกค้า | |
3. การตลาดอย่างรับผิดชอบ | R 3 | การโฆษณาที่อาจทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดหรือได้รับสินค้า/บริการไม่ตรงตามที่โฆษณา |
4. สุขภาพและความปลอดภัยของชุมชน | R 4.1 | การใช้สารที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ |
R 4.2 | โรงงานอุตสาหกรรมของลูกค้า ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือชุมชน | |
5. การปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างเป็นธรรม | R 5.1 | การเลือกปฏิบัติต่อลูกค้า หรือให้บริการลูกค้าอย่างไม่เป็นธรรม |
R 5.2 | ลูกค้าได้รับการร้องขอให้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นโดยไม่มีเหตุผล | |
6. ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย | R 6.1 | สภาพแวดล้อมในการทำงานที่มีความเสี่ยงสูง หรือขาดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ |
R 6.2 | บริษัทไม่คำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน | |
R 6.3 | พนักงานทำงานในสภาพที่เป็นอันตรายร้ายแรง | |
7. การใช้แรงงานผิดกฎหมาย | R 7 | ละเมิดกฎหมายแรงงานหรือมาตรฐานของลูกค้า |
8. สิทธิแรงงาน | R 8.1 | พนักงานถูกบังคับให้ทำงานมากเกินไปโดยไม่ได้รับความยินยอม |
R 8.2 | การเลือกปฏิบัติต่อพนักงานในที่ทำงานอย่างไม่เท่าเทียม |
ขั้นตอนที่ 3 : มาตรการป้องกันและการลดผลกระทบเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้น
ในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับหลักการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน หลังจากระบุและวิเคราะห์ความเสี่ยงแล้ว บริษัทมีการวางมาตรการเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยมีแนวทางดังนี้
- การปรับปรุงกระบวนการภายใน: หากพบว่ากระบวนการใดมีโอกาสก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน ควรพิจารณาปรับปรุงกระบวนการนั้น เช่น การเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการทำงานที่อาจมีผลกระทบต่อพนักงานหรือชุมชนให้น้อยลง
- การพัฒนานโยบายด้านสิทธิมนุษยชน: จัดทำนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องการต่อต้านการเลือกปฏิบัติ การป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการสนับสนุนสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นธรรม
- ฝึกอบรมพนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง: เพื่อให้พนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใจถึงความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมถึงรู้จักวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสม
- สร้างระบบการรายงานและการติดตามผล : สร้างช่องทางให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถรายงานปัญหาหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในด้านสิทธิมนุษยชนได้อย่างปลอดภัย และมีระบบติดตามผลเพื่อให้มั่นใจว่าได้มีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม
- ร่วมมือกับพันธมิตรภายนอก : การทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน เช่น องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หรือภาคประชาสังคม จะช่วยให้องค์กรเข้าใจถึงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในมุมมองที่กว้างขึ้น รวมถึงสามารถรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการลดผลกระทบได้
ขั้นตอนที่ 4 : การตรวจสอบ การติดตามการดำเนินงาน และการทบทวนประเด็น
- 4.1 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรับเรื่องร้องเรียน ติดตามเหตุการณ์ที่ได้รับแจ้งจากทุกช่องทางรวบรวมเป็น ข้อมูลเพื่อดำเนินการตามกระบวนการบรรเทา/เยียวยาผลกระทบประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (HRDD)
- 4.2 กำหนดให้ฝ่ายจัดการทำการทบทวนนโยบายสิทธิมนุษยชน อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- 4.3 กำหนดให้ฝ่ายจัดการจัดทำแบบประเมินตนเองคู่ค้าสำคัญอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- 4.4 กำหนดให้ฝ่ายจัดการจัดทำการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (HRDD) ปีละ 1 ครั้ง
ขั้นตอนที่ 5 : การสื่อสารต่อผู้มีส่วนได้เสียและสาธารณะ
- 5.1บริษัทเปิดเผยสถิติการรับเรื่องร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชนไว้บนแบบแสดงรายงานประจำปี (56-1 One Report) และรายงานความยั่งยืน (SD Report) ซึ่งเปิดเผยรายงานไว้ที่หน้าเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย
- 5.2
บริษัทเปิดเผยนโยบายดังต่อไปนี้ไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียมั่นใจได้ว่าบริษัทได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชนรอบด้าน (HRDD) อย่างรับผิดชอบ
- 5.2.1นโยบายสิทธิมนุษยชน
- 5.2.2จรรยาบรรณธุรกิจ
- 5.2.3จรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ
- 5.2.4การตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน